สูตรน้ำมันหอมระเหยในการรักษาโรคและเพื่อสุขภาพในอโรมาเทอราปี

สูตรน้ำมันหอมระเหยในการรักษาโรคและเพื่อสุขภาพในอโรมาเทอราปี
น้ำมันหอมระเหยที่สกัดได้จากพืชมีองค์ประกอบทางเคมีมากมายหลายชนิด และมีโมเลกุลต่ำจึงดูดซึมไปยังอวัยวะส่วนต่างๆ ได้ดี ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้จะให้ผลดีต่อการบำบัดโรคภัยไข้เจ็บที่เกิดขึ้นต่อร่างกายและจิตใจ เช่น ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ ความดันโลหิตสูง เป็นต้น แต่ทั้งนี้แล้วต้องเป็นโรคภัยไข้เจ็บที่ไม่มีความซับซ้อนมากนัก ในกรณีของโรคที่มีความรุนแรงควรใช้การรักษาตามแบบแพทย์แผนปัจจุบันควบคู่กันไปด้วย และต้องคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย กล่าวคือ ต้องใช้ในอัตราส่วนที่เจือจาง การใช้ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยต่อผู้ใช้ ต้องตรวจดูก่อนว่ามีการผู้มารับการดูแลแพ้น้ำมันหอมระเหยตัวใดบ้าง และห้ามเด็ดขาดไม่ให้ใช้ในผู้ป่วยบางโรค เช่น โรคลมชัก โรคหืดหอบ สตรีมีครรภ์และสตรีที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร เป็นต้น
สำหรับน้ำมันหอมระเหยที่นิยมนำมาใช้บำบัดโรคมีหลายชนิดยกตัวอย่าง ได้แก่ Lavender (ลาเวนเดอร์), Chamomile (คาโมไมล์), Marjoram (มาร์จอแรม), Rosemary (โรสแมรี่), Tea tree (ที ทรี), Pepermint (เปปเปอร์มิ้นท์), Eucalytus (ยูคาลิปตัส), Bergamot (มะกรูด), Geranium (เจอร์ราเนียม) และ Basil (โหระพา) เป็นต้น
หลักการนำน้ำมันหอมระเหยไปใช้ในการดูแลสุขภาพ
1. การสูดดมโดยตรง (Inhalation) โดยการเปิดฝาขวดแล้วสูดดมโดยตรง หรือใช้สำลี ผ้าชุบน้ำมันหอมระเหยจากขวดแล้วสูดดมเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เช่น ยูคาลิปตัส เสม็ดขาว ใช้ในการแก้หวัดและแพ้อากาศ
2. การสูดดมจากไอระเหย (Diffusion)
- หยดน้ำมันหอมระเหย 5 – 10 หยด ลงในอ่างน้ำร้อนที่มีไอร้อนแล้วสูดดมไอ ช่วยบรรเทาอาการไข้หวัด
- หยดน้ำมันหอมระเหย 12 – 16 หยด ลงในเตาต้มน้ำมันหอมระเหยพร้อมจุดเทียนไว้ใต้เตา เมื่อน้ำร้อนไอน้ำจะพากลิ่นกระจายไปทั่ว
- ใช้ Steamer ที่ใช้ระบบ Ultrasonic wave สั่นโมเลกุลน้ำให้กลายเป็นไอโดยไม่ต้องใช้ความร้อน โดยน้ำมันหอมระเหยจะไม่ถูกทำลายโครงสร้างด้วยความร้อน
3. การใช้น้ำมันหอมระเหยนวด (Massage) ผสมน้ำมันหอมระเหยประมาณ 30 หยด ผสมเบสออยล์ประมาณ 30 ซีซี ใช้นวดร่างกายคลายปวดเมื่อย
4. การใช้เป็นน้ำมันทาผิว และเครื่องสำอาง (Skin oil & Cosmetic) หยดน้ำมันหอมระเหย 30 หยด ผสมน้ำมันมะกอก หรือน้ำมันทาสำหรับผิวที่ไม่มีกลิ่น 30 มล. ใช้ทาบำรุงผิวพรรณ หรือใช้ทากันยุงรวมทั้งเป็นสารออกฤทธิ์ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง
5. การอาบน้ำ และการแช่น้ำ (Bathing & Jacuzzi) โดยการหยดน้ำมันหอมระเหย 20 – 30 หยด ลงในอ่างอาบน้ำแล้วคนให้น้ำมันกระจายไปทั่วอ่าง
6. การประคบร้อน หรือการประคบเย็น (Hot & cool Compress) ผสมน้ำมันหอมระเหยประมาณ 12 หยด ลงในอ่างน้ำร้อนแล้วนำผ้าขนหนูลงแช่ บิดให้หมาดประคบบริเวณที่ปวดเมื่อย หรือเป็นตะคริว หรือแช่ผ้าขนหนูในน้ำเย็นบิดให้แห้ง วางบริเวณที่ปวดบวม หรือเป็นไข้
7. ทำสเปรย์ฉีดตัว หรือดับกลิ่น (Body Spray & Deodorant) โดยการหยดน้ำมันหอมระเหย ประมาณ 150 หยด ลงในขวดสเปรย์ที่มีน้ำสะอาด หรือน้ำกลั่นบริสุทธิ์ 100 ซีซี เขย่าขวดก่อนใช้ฉีดตัวหลังอาบน้ำ
8. การใช้กำจัดแมลง เพื่อไม่ให้เป็นพาหะนำโรคมาสู่คน หรือการถูกรบกวนโดยตรงทางพืช และสัตว์เลี้ยง โดยเลือกน้ำมันหอมระเหยที่มีฤทธิ์ไล่แมลง
9. การนำมาใช้ทำยา โดยการแปรรูปเป็นตำรับยา เช่น ยาหม่อง ยาดม ยาทาแก้ปวด
10. การนำมาปรุงอาหารเป็นอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ เช่น น้ำมันจากกระเทียม
11. การใช้แต่งกลิ่นอาหารแทนสารเคมีสังเคราะห์
12. ใช้ทำยาทำความสะอาดเครื่องมือแพทย์ พื้น เครื่องใช้สุขภัณฑ์ ปราศจากเชื้อโรค

ธาตุเจ้าเรือน
ธาตุเจ้าเรือน คือ องค์ประกอบของธาตุที่รวมตัวกันอยู่อย่างปกตินั้น จะมีธาตุอย่างใดอย่างหนึ่งเด่นหรือมากกว่าอย่างหนึ่ง เรียกว่า เจ้าเรือนซึ่งจะมีลักษณะแตกต่างกันไปในแต่ละคน โดยแต่ละธาตุหลักทั้ง 4 จะมีลักษณะที่แสดงออกเป็นเจ้าเรือนดังนี้
1. ธาตุเจ้าเรือน คำนวณจากเดือนที่เกิด
ผู้ที่เกิดเดือน ตุลาคม - พฤศจิกายน - ธันวาคม   ธาตุเจ้าเรือนคือ ธาตุดิน
ผู้ที่เกิดเดือน   กรกฎาคม - สิงหาคม - กันยายน   ธาตุเจ้าเรือนคือ ธาตุน้ำ
ผู้ที่เกิดเดือน    เมษายน - พฤษภาคม - มิถุนายน   ธาตุจ้าเรือนคือ ธาตุลม
ผู้ที่เกิดเดือน   มกราคม - กุมภาพันธ์ - มีนาคม - ธาตุเจ้าเรือนคือ ธาตุไฟ

2. ธาตุเจ้าเรือน คำนวณตามการปฏิสนธิ
มารดาตั้งครรภ์เดือน พ.ย. มิ.ย. ก.ค. ทารกที่เกิด จะมีธาตุ ไฟ
มารดาตั้งครรภ์เดือน ส.ค. ก.ย. ส.ค. ทารกที่เกิด จะมีธาตุ ลม
มารดาตั้งครรภ์เดือน พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ทารกที่เกิด จะมีธาตุ น้ำ
มารดาตั้งครรภ์เดือน ก.พ. มี.ค. เม.ย. ทารกที่เกิด จะมีธาตุ ดิน
การแยกรสอาหารประจำตามธาตุเจ้าเรือน
ธาตุดิน ให้บริโภคอาหารที่มีรสฝาด หวาน มัน เค็ม เช่น มังคุด ฝรั่งดิบ ฟักทอง ถั่วต่างๆ เผือก เงาะ น้ำนม น้ำอ้อย เกลือ
ธาตุน้ำ ให้บริโภคอาหารที่มีรสเปรี้ยว ขม เมาเบื่อ เช่น มะนาว มะกรูด สับปะรด มะเขือเทศ ส้ม มะระขี้นก
ธาตุลม ให้บริโภคอาหารที่มีรสเผ็ดร้อน หรือพวกเครื่องเทศ เช่น พริกไท ขิง ข่า กระชาย โหระพา แกงเลียง
ธาตุไฟ ให้บริโภคอาหารที่มีรสขม เย็น จืด เช่น ตำลึง ใบบัวบก ขี้เหล็ก แตงโม
การเลือกใช้น้ำมันในการการนวด
ธาตุดิน ให้ใช้น้ำมันในการนวดที่มีกลิ่นช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และมั่นคง เช่น ตะไคร้ น้ำมันมะกรูด พิมเสนใบ เป็นต้น
ธาตุน้ำ ให้ใช้น้ำมันนวดที่มีกลิ่นช่วยให้เกิดความสดชื่น และกระปรี้กระเปร่า เช่น มะนาว กลิ่นส้ม เป็นต้น
ธาตุลม ให้ใช้น้ำมันนวดที่มีกลิ่นช่วยในการขับลมในร่างกาย เช่น น้ำมันกานพลู ขิง อบเชย มะกรูด เป็นต้น
ธาตุไฟ ให้ใช้น้ำมันนวดที่มีกลิ่นหอมเย็น เพื่อช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด เช่น กลิ่นมะลิ กลิ่นกุหลาบ กลิ่นกระดังงา เป็นต้น

สูตรผสมน้ำมันหอมระเหยเพื่อรักษาอาการ
1. เพิ่มพลังกาย กระตุ้นพลังใจ
- ลาเวนเดอร์ 3 หยด
- มะกรูด 1 หยด
- ขิง 1 หยด
- โรสแมรี่ 2 หยด
- น้ำมันเมล็ดทานตะวัน 15 หยด

2. แก้ปวดศีรษะ
- มาร์จอแรม 4 หยด
- โรสแมรี่ 1 หยด
- เปปเปอร์มิ้นท์ 2 หยด
- น้ำมันอัลมอลด์ 16 หยด

3. นอนฝันดี
- ส้ม 4 หยด
- กระดังงา 1 หยด
- คาโมไมล์ 2 หยด
- มาร์จอแรม 1 หยด
- น้ำมันจากรำข้าว 15 หยด

4. คืนความมั่นใจ
- พริกไทยดำ 3 หยด
- ขิง 1 หยด
- กระดังงา 1 หยด
- โหระพา 1 หยด
- เจอราเนียม 1 หยด
- น้ำมันจากอัลมอลด์ 15 หยด

5. เยียวยาจิตใจบอบช้ำ
- กุหลาบ 4 หยด
- ขิง 1 หยด
- พริกไทยดำ 1 หยด
- มะลิ 2 หยด
- น้ำมันจากรำข้าว 16 หยด

6. ขจัดความเครียด กังวล
- ส้ม 5 หยด
- ลาเวนเดอร์ 1 หยด
- กระดังงา 1 หยด
- เจอราเนียม 2 หยด
- น้ำมันจากดอกทานตะวัน 12 หยด

7. คืนความสดใส
- ไม้จันทร์ 3 หยด
- เจอราเนียม 1 หยด
- กุหลาบ 2 หยด
- ส้ม 2 หยด
- ดอกส้ม 1 หยด
- น้ำมันอัลมอลด์ 18 หยด

8. คลายความเครียด
- ดอกส้ม 3 หยด
- แทนเจอเรียม 2 หยด
- ลาเวนเดอร์ 1 หยด
- เจอราเนียม 2 หยด
- น้ำมันจากรำข้าว 16 หยด

9. ช่วยระบบย่อยอาหารให้ได้สมดุล
- ส้ม 4 หยด
- ขิง 2 หยด
- มะกรูด 2 หยด
- น้ำมันจากเมล็ดองุ่น(เกรพซีด) 16 หยด

10. เพิ่มพลังงาน
- โหระพา 4 หยด
- ลาเวนเดอร์ 1 หยด
- มะกรูด 2 หยด
- มาร์จอแรม 1 หยด
- น้ำมันอัลมอลด์ 16 หยด