English  Thai

สมาคมแพทย์แผนไทย ศูนย์สุขุมวิท โปรโมชั่นพิเศษ ลงทะเบียนเรียนนวดไทยมืออาชีพ สามารถเลือกเรียนฟรี อีกหนึ่งหลักสูตรฟรี 081-375-2200

หลักสูตรสปามืออาชีพ โปรโมชั่นพิเศษ
1.เรียน 1 คน ฟรี 1 คน
2.แถมฟรีหลักสูตร บริหารจัดการสปา ฟรี

แพ็คแก็ตสปาทุกครอสลดสูงสุดจนถึง 69 % ด่วนวันนี้จนถึงสิ้นเดือนมกราคม 2555


สปา-ศาสตร์แห่งความงามเพื่อสุขภาพ

อโรมาเทอราปิ-เพื่อความงาม


น้ำมันหอมระเหย


ลูกประคบสมุนไพร


 สถิติวันนี้ 27 คน
 สถิติเมื่อวาน 29 คน
 สถิติเดือนนี้
สถิติปีนี้
สถิติทั้งหมด
238 คน
4241 คน
414255 คน
เริ่มเมื่อ 2012-03-23

 
 
 
 
 
        
เราสรรหาสิ่งดี ๆ เพื่อคุณ OK-SPA                                                                                                                                                                                                                                         

 ประเภทของการนวดกับอโรมาเทอราปี
การนวดเป็นรูปแบบของการบำบัดรักษาโรคที่เก่าแก่ ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย และลดภาวะความเครียดรู้สึกปลอดโปร่งขึ้น การนวดจะทำให้กล้ามเนื้อกระชับ กระตุ้นการทำงานของเส้นประสาท การไหลเวียนของเลือด เร่งการขจัดสารพิษในระบบต่อมน้ำเหลือง
ปัจจุบันการนวดถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการใช้อุปกรณ์เสริม หรือการประยุกต์ท่าทางในการนวดเป็นแบบต่างๆ อาทิเช่น การใช้ครีมหรือโลชั่นบำรุงผิวร่วมกับการนวด โดยหวังประโยชน์เรื่องความสวยความงาม  และนวดร่วมกับการใช้น้ำมันหอมระเหยเพื่อช่วยในการผ่อนคลายความเครียด ช่วยให้สมองรู้สึกปลอดโปร่ง ซึ่งมีการนวดหลายแบบที่นำน้ำมันหอมระเหยมาใช้ในการนวดด้วย ซึ่งการนวดแต่ละชนิดก็มีที่มาแตกต่างกัน ได้แก่


1.Thai massage หรือ การนวดแผนไทยโบราณ

 


การนวดไทยจะเป็นการนวดที่มีลักษณะเฉพาะของตัวเอง เพราะผู้ที่ทำการนวดจะต้องมีความรู้ภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติที่แตกต่างจากการนวดอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการนวดโดยการกด การคลึง การดัดดึง การประคบ โดยการใช้ฝ่ามือและนิ้วกดตามจุดที่สำคัญต่างๆ บริเวณกล้ามเนื้อ ข้อต่อ และเส้นเอ็นทั้งร่างกาย เพื่อลดความอ่อนล้าและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ในขณะเดียวกันยังช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้นอีกด้วย การนวดไทยได้รับการสืบทอดมามากกว่าหนึ่งพันปี ซึ่งการนวดอย่างถูกวิธีเป็นประจำจะเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตทั้งร่างกาย ยืดเส้นเอ็นที่ตึงให้หย่อนลง ทำให้กล้ามเนื้อที่ตึงเครียดจากชีวิตประจำวันผ่อนคลาย และรักษาความยืดหยุ่นของข้อต่อทำให้ข้อต่อไม่เกิดการติดขัด ทั้งยังช่วยให้การทำงานของเนื้อเยื่อต่างๆ ดีขึ้น เพราะฉะนั้นการนวดไทยนี้จึงมีผลในการสร้างเสริมสุขภาพให้ดีขึ้น ซึ่งแบ่งเป็น 2 แบบ ได้แก่
1. การนวดแบบราชสำนัก หมายถึง การนวดเพื่อถวายกษัตริย์ เจ้านายชั้นสูง เป็นการนวดที่ต้องอาศัยความประณีตและสุภาพ ใช้อวัยวะน้อยและตรงจุดจริงๆ
2. การนวดแบบเชลยศักดิ์ หมายถึง การนวดแบบพื้นบ้านทั่วไป  มีการสืบทอดกันมาตามวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่น
นอกจากนี้ในปัจจุบันมีการพัฒนาการนวดไทยโดยการประยุกต์จากการนวดทั้งสองแบบข้างต้นทำให้เกิดเป็นการนวดประเภทที่
3. การนวดแบบธาราลัย(แบบประยุกต์) การนวดที่มีการผสมผสานข้อดีและปรับปรุงข้อเสีย ของการนวดทั้งแบบราชสำนักและแบบเชลยศักดิ์ เพื่อให้เกิดประโยชน์จากการนวดต่อผู้ถูกนวดมากที่สุด


2.Aromatherapy Massage หรือ การนวดสุคนธบำบัด


เป็นการนวดที่ใช้น้ำมันหอมระเหยที่สกัดจากพืชพรรณธรรมชาติ (Aromatherapy essential oil) ผสมกับน้ำมันพื้นฐาน (Base oil) ในอัตราส่วนที่สามารถซึมซับสู่ผิวหนังซึ่งมีผลต่อระบบไหลเวียน และการสูดดมจะส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งจะมีผลต่อสุขภาพในร่างกาย การนวดอโรมานี้เป็นที่นิยมมากกว่าสิบปีในสปา เพราะใช้หลักการ คือ ใช้การบำบัดโดยกลิ่นสมุนไพร ส่วนนวดนั้นเป็นส่วนเสริมที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกเพลิดเพลินไปด้วยและระหว่างรับการนวดก็สามารถสูดดมกลิ่นของสมุนไพรได้นานยิ่งขึ้น ดังนั้น การนวดอโรมาจึงต้องพิถีพิถันกับการเลือกชนิดน้ำมันสมุนไพรให้ตรงกับสภาพร่างกายของลูกค้า โดยผู้นวดจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในศาสตร์ของอโรมาเธอราปีอย่างแท้จริง

3.Swedish Massage หรือ การนวดแบบสวีดีช


การนวดวิธีนี้เป็นเทคนิคเฉพาะของการนวดแบบยุโรป โดยนวดบริเวณกล้ามเนื้อและส่วนของเนื้อเยื่อรวมกับการใช้น้ำมันหอมระเหย ซึ่งจะช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกายดีขึ้น ลดอาการตึงเครียด และเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและผิวหนัง ทำให้ร่างกายได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่

4.การนวดสปอร์ต (Sport Massage)


การนวดชนิดนี้ถูกคิดค้นมาเพื่อนวดกระตุ้นและนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อสำหรับนักกีฬา โดยจะนวดไปตามแนวกล้ามเนื้อลายจนถึงกล้ามเนื้อส่วนลึก มีเทคนิคการผ่อนคลายข้อต่อกระดูก ในปัจจุบันนี้นักกีฬากอล์ฟส่วนใหญ่มันจะมานวดสปอร์ตก่อนการแข็งขัน เพื่อช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อให้มีความกระฉับกระเฉงพร้อมสำหรับการแข่งขัน ท่านวดสปอร์ตมักจะเป็นท่าที่เน้นหนักเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดของกล้ามเนื้อ

5.Hot & Cold Stone Massage หรือ การนวดศิลาบำบัด


การนวดโดยหินบำบัดในการสื่อคลื่นพลังงานกับร่างกายมนุษย์นั้น จึงควรมีการศึกษาถึงศาสตร์นวดหินบำบัดอย่างแท้จริง การนวดหินบำบัดเป็นเรื่องแห่งธรรมชาติที่ละเอียดอ่อน ผู้ให้บริการนวดหินบำบัดจึงต้องคำนึงถึงภาวะของร่างกาย จิตใจ และวิญญาณ ทั้งของตนเองและของผู้มารับบริการอย่างแท้จริงด้วยหลักการสมาธิบำบัดอันเป็นวิธีที่ทรงประสิทธิภาพอย่างสูงสุด อาจมีการนวดด้วยมือและใช้น้ำมันร่วมในการนวดด้วยก็ได้


6.Jet-Lag Massage หรือ การนวดผ่อนคลายสำหรับนักเดินทาง


เป็นการนวดที่เหมาะสำหรับผู้ที่เหนื่อยล้าจากการเดินทางเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดและรู้สึกสบายทั้งใบหน้า ร่างกาย รวมถึงมือ เท้า คอ และไหล่ อาการเหนื่อยล้าจากการเดินทางที่เกิดขึ้นได้เสมอ และเมื่อมีการเดินทางร่างกายจะต้องปรับตัวให้เข้ากับเวลาที่แตกต่างกัน ซึ่งจะมีผลต่อการนอนหลับไม่เต็มอิ่ม การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ เบื่ออาหาร หรือการปรับตัวในการรับประทานอาหาร โดยการนวดนี้จะช่วยให้ร่างกายสามารถปรับตัวให้เข้ากับช่วงเวลาที่ปรับเปลี่ยนไปในแต่ละวันได้อย่างเหมาะสม


7.Men's Rubdown หรือ การนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ


การนวดประเภทนี้ได้ถูกพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ สำหรับผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง  และออกกำลังกายอยู่อย่างสม่ำเสมอ การนวดประเภทนี้จะช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง ปวดศีรษะ และปวดกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการออกกำลังกาย มีภาวะอาการเครียดเกิดขึ้นเป็นประจำ และผู้ที่มีปัญหาสภาพร่างกายเฉื่อยชา ขาดความกระตือรือร้น  การนวดนี้จะช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตรวมถึงระบบน้ำเหลืองดีขึ้น


8.Craniosacral Massage หรือ การนวดกะโหลกศีรษะ


ความเครียดจากสภาวะแวดล้อมในปัจจุบันที่เพิ่มขึ้นทุกวัน มีผลต่อการทำงานในร่างกายอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย อีกทั้งยังทำลายสุขภาพอีกด้วย  การนวดกะโหลกศีรษะจะช่วยให้เกิดความสมดุลของระบบประสาท และระบบการทำงานของระบบประสาทตั้งแต่ช่วงกะโหลกศีรษะไปจนถึงบริเวณก้นกบ ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ช่วยบรรเทาอาการปวดตึงของกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาอาการอื่นๆ เช่น อาการหน้ามืด การปวดคอ ปวดหลังเรื้อรัง ข้ออักเสบ อาการนอนไม่หลับ โรคหอบหืด อาการเฉื่อยชา อาการปวดประจำเดือน ไมเกรน ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นต้น


9.Ayurvedic Massage  หรือ การนวดแบบอินเดียโบราณ


ซึ่งคำว่า Ayurveda เป็นภาษาสันสกฤต หมายถึง ศาสตร์แห่งชีวิต  เป็นการมองชีวิตแบบรอบด้าน ทั้งในส่วนของร่างกาย จิตใจและวิญญาณ โดยเป็นการรักษาผู้ป่วยแบบองค์รวม ไม่ใช่มุ่งแต่รักษาโรคเพียงอย่างเดียว วิธีการที่ใช้ยังรวมถึงการใช้สมุนไพร อาหาร และกิจกรรมต่างๆ เช่น การนวด  การทำสมาธิ และโยคะ การนวดประเภทนี้นับว่าเป็นเทคนิคการนวดที่ช่วยให้ร่างกายกำจัดสารพิษตกค้างออกไป ทำให้จิตใจปลอดโปร่ง  ผ่อนคลายความเครียดและความกังวล การการใช้ส่วนผสมจากสมุนไพรโบราณและน้ำมันหอมระเหยเพื่อการกำจัดสารพิษในร่างกาย และบรรเทาอาการเจ็บของกล้ามเนื้อนั่นเอง

 



 
 
 
Copyright (c) 2011 by OK-Spa